Take a photo of a barcode or cover
tamtawan 's review for:
อเมริคา ชายผู้สาบสูญ
by Franz Kafka
8.7/10
โดดเดี่ยวและไม่เข้าใจ เป็นหัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้ ชายผู้สาบสูญเป็นงานเขียนเล่มที่สองที่ผมได้อ่านจากคาฟกา ผมไม่คิดว่างานเขียนจะสะท้อนความโดดเดี่ดยวออกมาได้มากขนาดนี้ ความโดดเดี่ยวของเด็กหนุ่มผู้จากบ้านในยุโรปเพื่อมาอเมริกา ดินแดนแห่งความหวังและอิสระภาพ? มันเป็นเช่นนั้นในความคิดของ คาร์ค รอสมัน
คาร์ค รอสมัน เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีที่ถูกไล่ออกจากบ้านมายังอเมริกาเพราะโดนสาวใช้ปลุกปล้ำ เขาต้องมายังดินแดนที่เขาไม่คุ้นชิน ผมต้องบอกว่าแค่บทแรกก็แสดงให้เห็นถึงหนังสือตั้งเล่ม "ช่างเครื่อง" สะท้อนหนังสือเล่มนี้ได้ออกมาเป็นอย่างดี คาร์ค รอสมันเป็นชาวเยอรมันและรักความยุติธรรมและเขาต้องการจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับช่างเครื่องที่เขาพึ่งพบเจอกันได้ไม่นา่น ช่างเครื่องเล่าเรื่องราวที่เขาโดนกดขี่ด้วยน้ำเสียงไม่เต็มตี่ พร้อมกับผู้มีอำนาจมากมายที่ล้อมรอบเขาได้แต่กรอกตาไปมา ราวกับเรื่องราวของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย ในห้องกัปตันนั้น คาร์คก็ได้พบกับลุงของเขาที่เป็นวุฒิสภา เขามอบความรักให้กับคาร์คแต่กลับไม่แม้แต่จะจับมือช่างเครื่อง และคาร์คก็ออกมาจากเรือลำนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะถูกตัดสิน
"เรื่องร้ายมันจะเกิดมันก็เกิด มันเกิดโดยที่เราไม่รู้ตัว" เป็นคำที่ผมคิดขึ้นมาระหว่างอ่านเรื่องราวของคาร์ค เรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขามันดูไม่สมเหตุสมผลและออกมาไม่เป็นท่า อาจจะเป็นที่แนวคิดเที่ยงตรงของเขาที่ไม่เข้ากับสถานที่ บางครั้งเรื่องก็นำเสนอความหวังให้กับเราและบดทำลายมันในพริบตา
"โรงละครโอกาโฮมา" เป็นบทจบของหนังสือเล่มนี้ มันมีบางช่วงตอนที่ดูขาดหายไป แต่พอได้อ่านแล้วเราก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเสียเท่าไหร่ เหมือนกับมันเป็นแดนของความฝันที่คาร์คเขาฝันขึ้นมาทุกอย่างดูเป็นใจราวกับความหวังกำลังกลับเข้ามาในมือของเขาแต่คาร์คก็ได้เสียชื่อของเขาไปแล้วเป็นเพียง "นิโกร" ชื่อจากที่ทำงานเก่า สุดท้ายเขาก็นั่งรถไฟเดินทางไปยังสถานที่ใหม่กับความหวังอันแห้งแล้งนี้บนโรงละครที่เหมือนกับความฝัน
โดดเดี่ยวและไม่เข้าใจ เป็นหัวใจหลักของหนังสือเล่มนี้ ชายผู้สาบสูญเป็นงานเขียนเล่มที่สองที่ผมได้อ่านจากคาฟกา ผมไม่คิดว่างานเขียนจะสะท้อนความโดดเดี่ดยวออกมาได้มากขนาดนี้ ความโดดเดี่ยวของเด็กหนุ่มผู้จากบ้านในยุโรปเพื่อมาอเมริกา ดินแดนแห่งความหวังและอิสระภาพ? มันเป็นเช่นนั้นในความคิดของ คาร์ค รอสมัน
คาร์ค รอสมัน เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีที่ถูกไล่ออกจากบ้านมายังอเมริกาเพราะโดนสาวใช้ปลุกปล้ำ เขาต้องมายังดินแดนที่เขาไม่คุ้นชิน ผมต้องบอกว่าแค่บทแรกก็แสดงให้เห็นถึงหนังสือตั้งเล่ม "ช่างเครื่อง" สะท้อนหนังสือเล่มนี้ได้ออกมาเป็นอย่างดี คาร์ค รอสมันเป็นชาวเยอรมันและรักความยุติธรรมและเขาต้องการจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับช่างเครื่องที่เขาพึ่งพบเจอกันได้ไม่นา่น ช่างเครื่องเล่าเรื่องราวที่เขาโดนกดขี่ด้วยน้ำเสียงไม่เต็มตี่ พร้อมกับผู้มีอำนาจมากมายที่ล้อมรอบเขาได้แต่กรอกตาไปมา ราวกับเรื่องราวของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย ในห้องกัปตันนั้น คาร์คก็ได้พบกับลุงของเขาที่เป็นวุฒิสภา เขามอบความรักให้กับคาร์คแต่กลับไม่แม้แต่จะจับมือช่างเครื่อง และคาร์คก็ออกมาจากเรือลำนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะถูกตัดสิน
"เรื่องร้ายมันจะเกิดมันก็เกิด มันเกิดโดยที่เราไม่รู้ตัว" เป็นคำที่ผมคิดขึ้นมาระหว่างอ่านเรื่องราวของคาร์ค เรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเขามันดูไม่สมเหตุสมผลและออกมาไม่เป็นท่า อาจจะเป็นที่แนวคิดเที่ยงตรงของเขาที่ไม่เข้ากับสถานที่ บางครั้งเรื่องก็นำเสนอความหวังให้กับเราและบดทำลายมันในพริบตา
"โรงละครโอกาโฮมา" เป็นบทจบของหนังสือเล่มนี้ มันมีบางช่วงตอนที่ดูขาดหายไป แต่พอได้อ่านแล้วเราก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงเสียเท่าไหร่ เหมือนกับมันเป็นแดนของความฝันที่คาร์คเขาฝันขึ้นมาทุกอย่างดูเป็นใจราวกับความหวังกำลังกลับเข้ามาในมือของเขาแต่คาร์คก็ได้เสียชื่อของเขาไปแล้วเป็นเพียง "นิโกร" ชื่อจากที่ทำงานเก่า สุดท้ายเขาก็นั่งรถไฟเดินทางไปยังสถานที่ใหม่กับความหวังอันแห้งแล้งนี้บนโรงละครที่เหมือนกับความฝัน