You need to sign in or sign up before continuing.
Take a photo of a barcode or cover
informative
inspiring
lighthearted
mysterious
relaxing
medium-paced
From all his serious-looking portraits I never would have guessed his raw sense of humor. Not only was it very funny and enjoyable, it applied to our present society as well (which left a somewhat bitter aftertaste). I don't think it's actually a 'perfect' utopia but just a 'better' version of commonwealth. As More concluded, we could see lots of improvements in our own.
informative
slow-paced
• Read for Utopian Imagination. Although I do not agree with More’s ideas of an ideal society, I did find the novel very intriguing!
How do you rate a 500 year old text? It stood the test of time for a quite frankly bizarre combo of pro-slavery, pro-christianity, communist living
informative
slow-paced
Plot or Character Driven:
N/A
Strong character development:
No
Loveable characters:
No
Diverse cast of characters:
No
Flaws of characters a main focus:
N/A
ยูโทเปียเล่มแรกสนุกมากสำหรับเรา คำพูดคมคาย เสียดสีสังคมและระบอบการปกครอง ศาสนจักร เหล่าผู้มีอำนาจและคนรวย แต่พอมาถึงยูโทเปียเล่มสองเราเบื่อมาก หนังสือสังคมดีๆ นี่เอง เป็นความเรียงยาวๆ ถึงวิถีชีวิตของชาวยูโทเปียทุกแง่มุมเลยจริงๆ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เราประทับใจบ้างถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ
มีหลายจุดที่เราไม่เห็นด้วยนะ เช่น ระบบทาส ถึงแม้ว่าจะเป็นทาสที่สบายกว่าที่อื่นๆ แต่ยูโทเปียในความคิดเราไม่น่ามีทาสแล้วอะ หรือแม้กระทั่งการแต่งงานซึ่งมีย่อหน้าหนึ่งพูดถึงการที่คู่สมรสต้องถอดเสื้อผ้าต่อหน้ากัน แล้วก็พูดถึงกว่าที่ต้องให้ชายเห็นหญิงเพราะหากแต่งงานไปแล้วไม่ถูกใจ บลาๆ จะเป็นเรื่องใหญ่เพราะหย่าไม่ได้ มีแต่พูดถึงชายไม่ถูกใจหญิง เป็นต้น
ส่วนที่ชอบแล้วก็ล้ำก็มี เช่น ไม่น่าเชื่อว่ามีเรื่องการุณยฆาตด้วย หรือให้หญิงได้อ่านหนังสือ ได้รับการศึกษาเท่าชาย(ไม่อยากจะเขียนแบบนี้หรอก แต่ต้องยอมรับ) เป็นต้น
เขาว่ากันว่ามอร์สอดแทรกมุกตลกกับเสียดสีการเมืองสมัยนั้นไว้เยอะ แต่ด้วยความที่เราไม่มีพื้นฐานด้านนี้เลย บางที่ที่เขาเขียนไว้เราก็อาจไม่เก็ท เพราะงั้นบางที่ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องจริงจังและใช้งานได้อาจจะเขียนไว้ขำๆ ก็ได้ ก็เลยพยายามไม่เอาจริงเอาจังมากค่ะ55555
Favorite Quotes
* หากแต่มีประเทศอื่นๆ ในโลกอีกมากที่ดูเหมือนว่าจะเลียนแบบครูที่เลว ซึ่งพร้อมจะลงโทษนักเรียนมากกว่าสอนให้เขาดีขึ้น ทั้งๆ ที่การช่วยให้ทุกคนเลี้ยงชีพได้เองนั้นดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาถูกผลักดันไปเป็นขโมยโดยไม่จำเป็น และต้องตายเพราะโทษทัณฑ์อันรุนแรงและสยดสยองเป็นไหนๆ — หน้าที่ 60
* พิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันเถิด มีชนชั้นสูงอย่างมากที่อยู่อย่างเกียจคร้านเหมือนกับผึ้งตัวผู้ และมีชีวิตอยู่โดยอาศัยแรงงานของผู้เช่าที่ดินของตน ซึ่งก็ถูกรีดนาทาเร้นค่าเช่าอย่างเต็มที่ — ???
* ก็ทำไมจึงจะต้องมีการหวงแหนกันด้วยเล่า? ในเมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียงพอและไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครแอบอ้างเอามากกว่าที่ต้องการ ทำไมจึงจะมีใครต้องสงสัยว่าจะเรียกร้องเอามากกว่าที่ต้องการในเมื่อไม่เคยขาดแคลน? ที่มนุษย์และสัตว์ตะกละตะกลามละโมบโลภมากก็เพราะต่างกลัวไม่มีกินเท่านั้นเอง — หน้าที่ 120
* แต่ที่ชาวยูโทเปียเย้นหยันหนักเข้าไปอีกก็คือความเขลาของคนที่ยกย่องคนร่ำรวยจนเกือบเหมือนพระเจ้า ทั้งๆ ที่พวกเขาก็มิได้เป็นหนี้เป็นสินคนรวยแต่อย่างใด และไม่ต้องกลัวเขาด้วย เพราะอันที่จริงแล้วไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปเคารพนับถือ นอกจากว่าเขาร่ำรวย และพวกเขาก็อาจจะรู้อยู่ตลอดเวลาว่า คนรวยนั้นตะกละและโลภถึงขนาดที่ว่า ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ให้เงินแก่ตนเลยแม้แต่หนึ่งเพนนีจากกองเงินอันมหาศาลของเขา— หน้าที่ 132
* แต่ถ้าคิดดูดีๆ ก็ในเมื่อตาของท่านเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนจริง อันไหนปลอมแล้ว ทำไมเพชรพลอยที่เป็นของปลอมจึงจะทำให้ความสุขแก่ท่านน้อยลงเล่า มันย่อมมีค่าสำหรับท่านเท่าๆ กับของจริง เพราะท่านก็เหมือนกันคนตาบอดนั่นเอง! — หน้าที่ 140
* ยูโทเปีย มีลักษณะเหมือนเรื่องจริงมาก แต่แล้วชื่อบุคคลและสถานที่อื่นซึ่งมาจากภาษากรีก กลับแสดงถึงลักษณะความเป็นไปไม่ได้ และความจินตนาการของยูโทเปียทั้งสิ้น เช่น ชื่อเรื่อง ยูโทเปีย (Utopia) ซึ่งแปลว่า ‘ไม่มีที่ไหน’ นครอะมอโรตี (Amaurot) ซึ่งแปลว่า ‘มัวไม่แน่นอน’ แม่น้ำอะนิดอร์ (Anyder) ซึ่งแปลว่า ‘ปราศจากน้ำ’ เป็นต้น — หน้าที่ 214
* กล่าวสั้นๆ ก็คือผู้เขียน ยูโทเปีย ไม่ได้เป็น ‘ยูโทเปีย’ ในลักษณะที่เรามักจะเข้าใจความหมายของคำนี้เลยแม้แต่น้อย — หน้าที่ 233
มีหลายจุดที่เราไม่เห็นด้วยนะ เช่น ระบบทาส ถึงแม้ว่าจะเป็นทาสที่สบายกว่าที่อื่นๆ แต่ยูโทเปียในความคิดเราไม่น่ามีทาสแล้วอะ หรือแม้กระทั่งการแต่งงานซึ่งมีย่อหน้าหนึ่งพูดถึงการที่คู่สมรสต้องถอดเสื้อผ้าต่อหน้ากัน แล้วก็พูดถึงกว่าที่ต้องให้ชายเห็นหญิงเพราะหากแต่งงานไปแล้วไม่ถูกใจ บลาๆ จะเป็นเรื่องใหญ่เพราะหย่าไม่ได้ มีแต่พูดถึงชายไม่ถูกใจหญิง เป็นต้น
ส่วนที่ชอบแล้วก็ล้ำก็มี เช่น ไม่น่าเชื่อว่ามีเรื่องการุณยฆาตด้วย หรือให้หญิงได้อ่านหนังสือ ได้รับการศึกษาเท่าชาย(ไม่อยากจะเขียนแบบนี้หรอก แต่ต้องยอมรับ) เป็นต้น
เขาว่ากันว่ามอร์สอดแทรกมุกตลกกับเสียดสีการเมืองสมัยนั้นไว้เยอะ แต่ด้วยความที่เราไม่มีพื้นฐานด้านนี้เลย บางที่ที่เขาเขียนไว้เราก็อาจไม่เก็ท เพราะงั้นบางที่ที่เราคิดว่าเป็นเรื่องจริงจังและใช้งานได้อาจจะเขียนไว้ขำๆ ก็ได้ ก็เลยพยายามไม่เอาจริงเอาจังมากค่ะ55555
Favorite Quotes
* หากแต่มีประเทศอื่นๆ ในโลกอีกมากที่ดูเหมือนว่าจะเลียนแบบครูที่เลว ซึ่งพร้อมจะลงโทษนักเรียนมากกว่าสอนให้เขาดีขึ้น ทั้งๆ ที่การช่วยให้ทุกคนเลี้ยงชีพได้เองนั้นดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาถูกผลักดันไปเป็นขโมยโดยไม่จำเป็น และต้องตายเพราะโทษทัณฑ์อันรุนแรงและสยดสยองเป็นไหนๆ — หน้าที่ 60
* พิจารณาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันเถิด มีชนชั้นสูงอย่างมากที่อยู่อย่างเกียจคร้านเหมือนกับผึ้งตัวผู้ และมีชีวิตอยู่โดยอาศัยแรงงานของผู้เช่าที่ดินของตน ซึ่งก็ถูกรีดนาทาเร้นค่าเช่าอย่างเต็มที่ — ???
* ก็ทำไมจึงจะต้องมีการหวงแหนกันด้วยเล่า? ในเมื่อมีทุกสิ่งทุกอย่างเพียงพอและไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครแอบอ้างเอามากกว่าที่ต้องการ ทำไมจึงจะมีใครต้องสงสัยว่าจะเรียกร้องเอามากกว่าที่ต้องการในเมื่อไม่เคยขาดแคลน? ที่มนุษย์และสัตว์ตะกละตะกลามละโมบโลภมากก็เพราะต่างกลัวไม่มีกินเท่านั้นเอง — หน้าที่ 120
* แต่ที่ชาวยูโทเปียเย้นหยันหนักเข้าไปอีกก็คือความเขลาของคนที่ยกย่องคนร่ำรวยจนเกือบเหมือนพระเจ้า ทั้งๆ ที่พวกเขาก็มิได้เป็นหนี้เป็นสินคนรวยแต่อย่างใด และไม่ต้องกลัวเขาด้วย เพราะอันที่จริงแล้วไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องไปเคารพนับถือ นอกจากว่าเขาร่ำรวย และพวกเขาก็อาจจะรู้อยู่ตลอดเวลาว่า คนรวยนั้นตะกละและโลภถึงขนาดที่ว่า ตราบใดที่เขามีชีวิตอยู่ เขาจะไม่ให้เงินแก่ตนเลยแม้แต่หนึ่งเพนนีจากกองเงินอันมหาศาลของเขา— หน้าที่ 132
* แต่ถ้าคิดดูดีๆ ก็ในเมื่อตาของท่านเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าอันไหนจริง อันไหนปลอมแล้ว ทำไมเพชรพลอยที่เป็นของปลอมจึงจะทำให้ความสุขแก่ท่านน้อยลงเล่า มันย่อมมีค่าสำหรับท่านเท่าๆ กับของจริง เพราะท่านก็เหมือนกันคนตาบอดนั่นเอง! — หน้าที่ 140
* ยูโทเปีย มีลักษณะเหมือนเรื่องจริงมาก แต่แล้วชื่อบุคคลและสถานที่อื่นซึ่งมาจากภาษากรีก กลับแสดงถึงลักษณะความเป็นไปไม่ได้ และความจินตนาการของยูโทเปียทั้งสิ้น เช่น ชื่อเรื่อง ยูโทเปีย (Utopia) ซึ่งแปลว่า ‘ไม่มีที่ไหน’ นครอะมอโรตี (Amaurot) ซึ่งแปลว่า ‘มัวไม่แน่นอน’ แม่น้ำอะนิดอร์ (Anyder) ซึ่งแปลว่า ‘ปราศจากน้ำ’ เป็นต้น — หน้าที่ 214
* กล่าวสั้นๆ ก็คือผู้เขียน ยูโทเปีย ไม่ได้เป็น ‘ยูโทเปีย’ ในลักษณะที่เรามักจะเข้าใจความหมายของคำนี้เลยแม้แต่น้อย — หน้าที่ 233
adventurous
informative
inspiring
reflective
slow-paced
Plot or Character Driven:
Plot
Strong character development:
No
Loveable characters:
N/A
Diverse cast of characters:
No
Flaws of characters a main focus:
No